อาชีพนอกกระเเส : บรรณารักษ์ห้องสมุดคนตาบอด
แหล่งบริการสารสนเทศ
ความหมายการจัดการสารสนเทศ
การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การทำกิจกรรมหลัก ต่างๆ ในการจัดหา การจัดโครงสร้าง (organization) การ
ควบคุม ผลิต
การเผยแพร่และการใช้สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานขององค์การทุก
ประเภทอย่างมีประสิทธิผล
ซึ่งสารสนเทศในที่นี้หมายถึงสารสนเทศทุกประเภทที่มีคุณค่าไม่ว่าจะมีแหล่ง
กำเนิดจากภายในหรือภายนอกองค์การ (Wilson 2003 อ้างใน Kirk, 2005, p.21)
การ
จัดการสารสนเทศ หมายถึง กระบวนการดำเนินงาน เช่น ทำดรรชนี การจัดหมวดหมู่
การจัดแฟ้มการทำรายการเพื่อการเข้าถึงเอกสารหรือสารสนเทศที่มีการบันทึกไว้
ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่จดหมายเหตุ
(archive) เชิงประวัติ ถึงข้อมูลดิจิทัล
การ
จัดการสารสนเทศ หมายถึง การดำเนินการกับสารสนเทศในระดับองค์การ ได้แก่
การวางแผน การ จัดสรรงบประมาณ การจัดโครงสร้างองค์การ การจัดเจ้าหน้าที่
การกำหนดทิศทาง การฝึกอบรม และการ
ควบคุมสารสนเทศ (Bent, 1999 อ้างใน Myburgh, 2000, p.10)
กล่าว
โดยสรุป การจัดการสารสนเทศ ความหมายถึง การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา
และเผยแพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศ
ทั้งภายในและภายนอกองค์การ โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ
โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมาใช้ในการจัดการ รวมทั้งมีนโยบาย
หรือ กลยุทธ์ระดับองค์การในการจัดการสารสนเทศ
แหล่งบริการสารสนเทศ
ความหมายและประเภทของแหล่งสารสนเทศ
แหล่งสารสนเทศ (information sources) หมายถึง แหล่งที่มา แหล่งผลิต แหล่งเผยแพร่และให้บริการสารสนเทศ ซึ่งอาจเป็นบุคคล สื่อมวลชน และสถาบันบริการสารสนเทศ แหล่งสารสนเทศแยกประเภทตามที่มาและลำดับการผลิต แบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ
1. สารสนเทศปฐมภูมิ (primary sources) หมายถึง สารสนเทศที่เรียบเรียงขึ้นจากประสบการณ์ของผู้เขียน หรือเป็น ผลการค้นคว้าวิจัย นำเสนอความรู้ใหม่ ๆ ได้แก่ รายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์ เอกสารการปฏิบัติงาน รายงานการประชุมทางวิชาการ บทความวารสารวิชาการ เอกสารสิทธิบัตร เอกสารมาตรฐาน เอกสารจดหมายเหตุ
2. สารสนเทศทุติยภูมิ (secondary sources) หมายถึง สารสนเทศที่ได้จากการนำสารสนเทศปฐมภูมิมาสังเคราะห์และเรียบเรียงขึ้นใหม่ เพื่อเสนอข้อคิดหรือแนวโน้มบางประการ ได้แก่ หนังสือทั่วไป หนังสือตำรา หนังสือคู่มือการทำงาน รายงานความก้าวหน้าทางวิทยาการ บทคัดย่องานวิจัย บทวิจารณ์หนังสือ วารสารสาระสังเขป เป็นต้น
3. สารสนเทศตติยภูมิ (tertiary sources) หมายถึง สารสนเทศที่ชี้แนะแหล่งที่อยู่ของสารสนเทศปฐมภูมิและทุติยภูมิ จะให้ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสารสนเทศ ได้แก่หนังสือนามานุกรม บรรณานุกรม และดัชนีวารสาร เป็นต้น
แหล่งสารสนเทศมีความสำคัญต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูล
ในการอ้างอิงทางวิชาการถือว่าสารสนเทศจากแหล่งปฐมภูมิเป็นสารสนเทศที่ดี
มีความน่าเชื่อถือในเรื่องความถูกต้องตามข้อเท็จจริงมากกว่าสารสนเทศทุติยภูมิและสารสนเทศตติยภูมิ
สถาบันบริการสารสนเทศ
สถาบันบริการสารสนเทศ หมายถึง องค์การที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ให้บริการสารสนเทศตามความต้องของผู้ใช้ ซึ่งจำแนกได้หลายประเภทตามขอบเขต หน้าที่และวัตถุประสงค์ ได้แก่
1. ห้องสมุดหรือหอสมุด (library) ห้องสมุดเป็นแหล่งสะสมทรัพยากรสารสนเทศทั้งที่เป็นวัสดุตีสิ่งพิมพ์และวัสดุไม่ตีพิมพ์ มีบริการครอบคลุมหลายด้าน แต่ส่วนใหญ่เน้นบริการด้านการอ่าน บริการยืม – คืน และบริการช่วยการค้นคว้า ห้องสมุดจำแนกตามวัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายในการจัดตั้ง แบ่งได้เป็น 5 ประเภทได้แก่
สถาบันบริการสารสนเทศ หมายถึง องค์การที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ให้บริการสารสนเทศตามความต้องของผู้ใช้ ซึ่งจำแนกได้หลายประเภทตามขอบเขต หน้าที่และวัตถุประสงค์ ได้แก่
1. ห้องสมุดหรือหอสมุด (library) ห้องสมุดเป็นแหล่งสะสมทรัพยากรสารสนเทศทั้งที่เป็นวัสดุตีสิ่งพิมพ์และวัสดุไม่ตีพิมพ์ มีบริการครอบคลุมหลายด้าน แต่ส่วนใหญ่เน้นบริการด้านการอ่าน บริการยืม – คืน และบริการช่วยการค้นคว้า ห้องสมุดจำแนกตามวัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายในการจัดตั้ง แบ่งได้เป็น 5 ประเภทได้แก่
1.1 ห้องสมุดโรงเรียน (school library)
1.2 ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา (academic library)
1.3 ห้องสมุดเฉพาะ (special library)
1.4 ห้องสมุดประชาชน (public library)
1.5 หอสมุดแห่งชาติ (national library)
1.2 ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา (academic library)
1.3 ห้องสมุดเฉพาะ (special library)
1.4 ห้องสมุดประชาชน (public library)
1.5 หอสมุดแห่งชาติ (national library)
อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตขึ้นในประเทศและต่างประเทศ ให้บริการการอ่าน
ศึกษาค้นคว้าและวิจัยแก่ประชาชนเพื่อให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการศึกษาตามอัธยาศัย
หอสมุดแห่งชาติทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานระบบสารนิเทศทางวิชาการแห่งชาติแห่ง
หอสมุดแห่งชาติปัจจุบันตั้งอยู่ที่ท่า
ภาคกลาง ได้แก่ หอสมุดแห่งชาติเขตลาดกระบัง เฉลิมพระเกียรติ หอสมุดแห่งชาติอินทร์บุรี สิงห์บุรี หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษกกาญจนบุรี และหอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรีเฉลิมพระเกียรติ
ภาคเหนือ ได้แก่ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษกเชียงใหม่ และหอสมุดแห่งชาติลำพูน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ หอสมุดแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสีมา หอสมุดแห่งชาติประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ภาคตะวันออก ได้แก่ หอสมุดแห่งชาติ ชลบุรี และหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
ภาคใต้ ได้แก่ หอสมุดแห่งชาตินครศรีธรรมราช หอสมุดแห่งชาติกาญจนาภิเษกสงขลา หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถสงขลา หอสมุดแห่งชาติวัดดอนรัก จ.สงขลา หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถตรัง และหอสมุดแห่งชาติวัดเจริญสมณกิจภูเก็ต
2. ศูนย์สารสนเทศหรือศูนย์เอกสาร (information center or documentation center)
ศูนย์สารสนเทศหรือศูนย์เอกสารเป็นหน่วยงานให้บริการสารสนเทศเฉพาะด้าน แก่ผู้ใช้เฉพาะกลุ่มสาขาวิชาหรือสาขาวิชาชีพ เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย มีลักษณะคล้ายห้องสมุดเฉพาะ ให้ข้อมูลที่จัดทำขึ้นโดยศูนย์สารสนเทศหรือศูนย์เอกสารนั้น เช่น ข้อมูลสถิติ ตัวเลข รายงานการวิจัย สาระสังเขปและดัชนี วารสารเฉพาะวิชา ศูนย์นี้โดยทั่วไปมักแบ่งงานออกเป็น 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายห้องสมุด ฝ่ายการเอกสาร และฝ่ายพิมพ์
ตัวอย่างของศูนย์สารสนเทศหรือศูนย์เอกสารได้แก่ ศูนย์บริการเอกสารการวิจัยแห่งประเทศไทย (ศบอ.) ศูนย์บริการสารสนเทศทางเทคโนโลยี (Technical Information Access Center : TIAC) สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ศูนย์บริการเอกสารการวิจัยแห่งประเทศไทยให้บริการสารสนเทศแก่นักวิจัย ผลิตสื่อและเผยแพร่ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีไทย ในรูปของสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ประสานงานและร่วมมือกับหอสมุด สถานศึกษา ทั้งในและต่างประเทศ และให้บริการค้นคว้าทำสำเนารายงาน FAO (Food and Agriculture Organization) ของ สหประชาชาติ ที่ ศบอ.เป็นตัวแทนรับฝากในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2509
เอกสารการวิจัยของ ศบอ. เริ่มตีพิมพ์รายงานแต่ละโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ที่วิจัยโดยนักวิจัยของสถาบันฯเอง รวมถึงการวิจัยร่วมกับนักวิจัยต่างชาติจากหลาย ๆ ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เยอรมัน สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (AIT) เป็นต้น มีผลงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมกว่า 2,000 ฉบับ ในหลากหลายกลุ่มสาขา เช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยี การบรรจุหีบห่อ การบริหารและการจัดการ การพัฒนาบุคลากรและชุมชน การวิจัยตลาดและธุรกิจ เทคโนโลยีการก่อสร้าง เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีพลังงาน เทคโนโลยีวัสดุ เทคโนโลยีวิศวกรรม เทคโนโลยีอาหาร นิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม เภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเยาวชน และอุตสาหกรรมเคมี เป็นต้น
3. ศูนย์ข้อมูล (data center)
ศูนย์ข้อมูลทำหน้าที่รับผิดชอบการผลิตหรือรวบรวมข้อมูล ตัวเลข จัดระบบและเผยแพร่สู่ผู้ใช้ที่อยู่ในเป้าหมาย มักเป็นส่วนหนึ่งของสถาบัน เช่น ศูนย์ข้อมูลธนาคารกรุงเทพ ศูนย์ข้อมูลธุรกิจหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศูนย์ข้อมูลพลังงานแห่งประเทศไทย สังกัดสำนักงานพลังงานแห่งชาติ เป็นต้น
4. หน่วยงานทะเบียนสถิติ (statistical office)
หน่วยทะเบียนสถิติเป็นศูนย์กลางรวบรวมหลักฐานการจดทะเบียนหรือ ลงทะเบียน และรวบรวมสถิติที่เกี่ยวข้อง อาจเป็นหน่วยงานที่สังกัดอยู่ในกระทรวง ทบวง กรม เพื่อรวบรวมสถิติเฉพาะภายในหน่วยงาน เช่น หน่วยเวชระเบียนของโรงพยาบาลต่าง ๆ กองการทะเบียนของกรมการปกครอง ศูนย์สถิติการพาณิชย์ของ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นต้น
5. ศูนย์วิเคราะห์สารสนเทศ (information analysis center)
ศูนย์วิเคราะห์สารสนเทศให้บริการสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา โดยนำมาคัดเลือก วิเคราะห์ สรุปย่อและจัดเก็บในลักษณะของแฟ้มข้อมูล ใบข้อมูล (sheet) และปริทัศน์ (review) เพื่อใช้ในการตอบคำถามและจัดส่งให้กับผู้ที่สนใจในรูปของบริการข่าวสารทันสมัย เนื่องจากกระบวนการทำงานของศูนย์วิเคราะห์สารสนเทศ ต้องมีการวิเคราะห์และประเมินสารสนเทศ ผู้ปฏิบัติงานนี้จึงต้องมีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน ส่วนใหญ่จึงมักประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ และนักวิชาการ ตัวอย่างของ ศูนย์วิเคราะห์สารสนเทศ เช่น สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
6. ศูนย์ประมวลและแจกจ่ายสารสนเทศ (information clearing house)
ศูนย์ประมวลและแจกจ่ายสารสนเทศทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในการเข้าถึงแหล่งสารสนเทศ แนะนำแหล่งสารสนเทศ (referral service) ที่เหมาะสม หรือทำหน้าที่เป็นหน่วยงานรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศแล้วแจกจ่ายไปยังผู้ที่ต้องการ โดยการจัดทำสหบัตรรายการค้น บรรณานุกรม ดัชนีและสาระสังเขป และรายชื่อเอกสารที่ศูนย์ทำหน้าที่ประสานการแจกจ่าย ได้แก่ ห้องสมุดยูเนสโก หอสมุดแห่งชาติประเทศอังกฤษ (British Library) หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress) และหอสมุดแห่งชาติของไทย เป็นต้น
สำหรับประเทศไทยมีศูนย์ประสานงานเครือข่ายระบบสารนิเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสังคมศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค มีสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเป็นหน่วยประสานงาน โดยยูเนสโก (UNESCO) เป็นผู้จัดตั้งข่ายงานทั้งสองในระดับภูมิภาคเรียกว่า ASTINFO และ APINESS
“ASTINFO” ย่อมาจาก Regional Network for the Exchange of Information and Experiences in Science and Technology in Asia and Pacific มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า “ข่ายงานภูมิภาคเพื่อการแลกเปลี่ยนสารนิเทศและประสบการณ์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาคพื้นเอเซียและแปซิฟิค” ประกอบด้วยสมาชิก 12 ประเทศ คือ ศรีลังกา อินเดีย ฟิลิปปินส์ อิหร่าน จีน เกาหลี เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ เนปาล และประเทศไทย จัดตั้งเครือข่ายงานขึ้นเมื่อปี 2527 โดยมีสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ 6 ศูนย์ คือ สถาบันวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักหอสมุดเกษตรศาสตร์ สำนักบรรณสารการพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยมหิดล กองหอสมุดแห่งชาติ ศูนย์บริการเอกสารการวิจัย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
“APINESS” ย่อมาจาก Asia-Pacific Information Network in Social Sciences มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า ข่ายงานสารนิเทศด้านสังคมศาสตร์ระดับภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิค มีสมาชิก 17 ประเทศ โดย 12 ประเทศจาก ASTINFO จัดตั้งข่ายงานขึ้นเมื่อปี 2531 โดย ประกอบด้วยศูนย์สมทบทั้ง 6 ของ ASTINFO และหน่วยงานอื่นอีก 4 แห่ง คือ ห้องสมุดและศูนย์สารนิเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย,สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และหอสมุดจอห์น เอฟ เคเนดี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ทั้งสองข่ายงานข้างต้น มีภารกิจในการให้บริการข้อสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสังคมศาสตร์ในข่ายงานฯ พิจารณาขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศเพื่อปรับปรุงโครงสร้างขององค์กรในข่ายงานฯ จัดดำเนินการฝึกอบรมและสัมมนาระบบสารนิเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสังคมศาสตร์ จัดดำเนินการในเรื่องอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย เช่นจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) องค์การอนามัยโลก (WHO) และยูเนสโก ที่เกี่ยวกับ ASTINFO และ APINESS
7. ศูนย์แนะแหล่งสารสนเทศ (referral centers)
ศูนย์แนะแหล่งสารสนเทศ ทำหน้าที่รวบรวมแหล่งข้อมูลและแหล่งสารสนเทศ โดยจัดทำเป็นคู่มือ หรือรายการบรรณานุกรมและดัชนี เพื่อให้คำแนะนำแหล่งข้อมูลสารสนเทศที่เหมาะสมตามที่ผู้ใช้ต้องการ ส่วนใหญ่จะแนะแหล่งสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา เช่น ศูนย์แนะแหล่งสารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ศูนย์แนะแหล่งสารสนเทศสิ่งแวดล้อมนานาชาติ เป็นต้น (ศรีสุภา นาคธน, 2548)
8. หน่วยงานจดหมายเหตุ (archive)
หน่วยงานจดหมายเหตุ ทำหน้าที่รวบรวมและอนุรักษ์เอกสารราชการ และเอกสารทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ คำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ บันทึก หนังสือโต้ตอบ รายงาน แผนที่ ภาพถ่าย แบบแปลน เพื่อเป็นหลักฐานการดำเนินงานของรัฐและหน่วยงานเอกชน ใช้เป็นแหล่งค้นคว้าอ้างอิงทั้งเพื่อการปฏิบัติงานและค้นคว้าทางวิชาการ ตัวอย่างเช่นหอจดหมายเหตุแห่งชาติ หอจดหมายเหตุส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น หอจดหมายเหตุของสถาบันทางศาสนา หอจดหมายเหตุของมหาวิทยาลัย และหอจดหมายเหตุของสถาบันธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นต้น
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ มีฐานะเป็นสำนักหนึ่งในกรมศิลปากรกระทรวงวัฒนธรรม จัดตั้งเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2495 มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเก็บและบำรุงรักษาเอกสารทางราชการที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ที่มีอายุเกิน 25 ปี และรูปถ่ายไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า ให้บริการค้นคว้าเอกสารจดหมายเหตุประเภทต่าง ๆ เช่น เอกสารโต้ตอบของส่วนราชการ เอกสารส่วนบุคคล เอกสารประวัติศาสตร์ร่วมสมัยทั้งที่เป็นเอกสารประเภทลายลักษณ์และประเภทไมโครฟิล์มรวม ทั้งบริการเอกสารประเภทโสตทัศนจดหมายเหตุ เช่น ภาพถ่าย แผนที่ แผนผัง แบบแปลน สไลด์ ซีดี แถบบันทึกเสียง เป็นต้น
ปัจจุบันหอจดหมายเหตุแห่งชาติตั้งอยู่ด้านหลังอาคารหอสมุดแห่งชาติ ที่ท่าวาสุกรี ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และมีหอจดหมายเหตุแห่งชาติสาขาในต่างจังหวัด ได้แก่ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตรัง ยะลา และสงขลา หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พะเยา และอุบลราชธานี หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดจันทบุรี หอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดนครศรีธรรมราช หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หอเกียรติยศ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี คนที่ ๒๑ จังหวัดสุพรรณบุรี
9. สถาบันบริการสารสนเทศเชิงพาณิชย์ (commercial information service center)
หอสมุดแห่งชาติทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานระบบสารนิเทศทางวิชาการแห่งชาติแห่ง
หอสมุดแห่งชาติปัจจุบันตั้งอยู่ที่ท่า
ภาคกลาง ได้แก่ หอสมุดแห่งชาติเขตลาดกระบัง เฉลิมพระเกียรติ หอสมุดแห่งชาติอินทร์บุรี สิงห์บุรี หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษกกาญจนบุรี และหอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรีเฉลิมพระเกียรติ
ภาคเหนือ ได้แก่ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษกเชียงใหม่ และหอสมุดแห่งชาติลำพูน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ หอสมุดแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสีมา หอสมุดแห่งชาติประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ภาคตะวันออก ได้แก่ หอสมุดแห่งชาติ ชลบุรี และหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
ภาคใต้ ได้แก่ หอสมุดแห่งชาตินครศรีธรรมราช หอสมุดแห่งชาติกาญจนาภิเษกสงขลา หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถสงขลา หอสมุดแห่งชาติวัดดอนรัก จ.สงขลา หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถตรัง และหอสมุดแห่งชาติวัดเจริญสมณกิจภูเก็ต
2. ศูนย์สารสนเทศหรือศูนย์เอกสาร (information center or documentation center)
ศูนย์สารสนเทศหรือศูนย์เอกสารเป็นหน่วยงานให้บริการสารสนเทศเฉพาะด้าน แก่ผู้ใช้เฉพาะกลุ่มสาขาวิชาหรือสาขาวิชาชีพ เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย มีลักษณะคล้ายห้องสมุดเฉพาะ ให้ข้อมูลที่จัดทำขึ้นโดยศูนย์สารสนเทศหรือศูนย์เอกสารนั้น เช่น ข้อมูลสถิติ ตัวเลข รายงานการวิจัย สาระสังเขปและดัชนี วารสารเฉพาะวิชา ศูนย์นี้โดยทั่วไปมักแบ่งงานออกเป็น 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายห้องสมุด ฝ่ายการเอกสาร และฝ่ายพิมพ์
ตัวอย่างของศูนย์สารสนเทศหรือศูนย์เอกสารได้แก่ ศูนย์บริการเอกสารการวิจัยแห่งประเทศไทย (ศบอ.) ศูนย์บริการสารสนเทศทางเทคโนโลยี (Technical Information Access Center : TIAC) สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ศูนย์บริการเอกสารการวิจัยแห่งประเทศไทยให้บริการสารสนเทศแก่นักวิจัย ผลิตสื่อและเผยแพร่ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีไทย ในรูปของสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ประสานงานและร่วมมือกับหอสมุด สถานศึกษา ทั้งในและต่างประเทศ และให้บริการค้นคว้าทำสำเนารายงาน FAO (Food and Agriculture Organization) ของ สหประชาชาติ ที่ ศบอ.เป็นตัวแทนรับฝากในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2509
เอกสารการวิจัยของ ศบอ. เริ่มตีพิมพ์รายงานแต่ละโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ที่วิจัยโดยนักวิจัยของสถาบันฯเอง รวมถึงการวิจัยร่วมกับนักวิจัยต่างชาติจากหลาย ๆ ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เยอรมัน สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (AIT) เป็นต้น มีผลงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมกว่า 2,000 ฉบับ ในหลากหลายกลุ่มสาขา เช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยี การบรรจุหีบห่อ การบริหารและการจัดการ การพัฒนาบุคลากรและชุมชน การวิจัยตลาดและธุรกิจ เทคโนโลยีการก่อสร้าง เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีพลังงาน เทคโนโลยีวัสดุ เทคโนโลยีวิศวกรรม เทคโนโลยีอาหาร นิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม เภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเยาวชน และอุตสาหกรรมเคมี เป็นต้น
3. ศูนย์ข้อมูล (data center)
ศูนย์ข้อมูลทำหน้าที่รับผิดชอบการผลิตหรือรวบรวมข้อมูล ตัวเลข จัดระบบและเผยแพร่สู่ผู้ใช้ที่อยู่ในเป้าหมาย มักเป็นส่วนหนึ่งของสถาบัน เช่น ศูนย์ข้อมูลธนาคารกรุงเทพ ศูนย์ข้อมูลธุรกิจหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศูนย์ข้อมูลพลังงานแห่งประเทศไทย สังกัดสำนักงานพลังงานแห่งชาติ เป็นต้น
4. หน่วยงานทะเบียนสถิติ (statistical office)
หน่วยทะเบียนสถิติเป็นศูนย์กลางรวบรวมหลักฐานการจดทะเบียนหรือ ลงทะเบียน และรวบรวมสถิติที่เกี่ยวข้อง อาจเป็นหน่วยงานที่สังกัดอยู่ในกระทรวง ทบวง กรม เพื่อรวบรวมสถิติเฉพาะภายในหน่วยงาน เช่น หน่วยเวชระเบียนของโรงพยาบาลต่าง ๆ กองการทะเบียนของกรมการปกครอง ศูนย์สถิติการพาณิชย์ของ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นต้น
5. ศูนย์วิเคราะห์สารสนเทศ (information analysis center)
ศูนย์วิเคราะห์สารสนเทศให้บริการสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา โดยนำมาคัดเลือก วิเคราะห์ สรุปย่อและจัดเก็บในลักษณะของแฟ้มข้อมูล ใบข้อมูล (sheet) และปริทัศน์ (review) เพื่อใช้ในการตอบคำถามและจัดส่งให้กับผู้ที่สนใจในรูปของบริการข่าวสารทันสมัย เนื่องจากกระบวนการทำงานของศูนย์วิเคราะห์สารสนเทศ ต้องมีการวิเคราะห์และประเมินสารสนเทศ ผู้ปฏิบัติงานนี้จึงต้องมีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน ส่วนใหญ่จึงมักประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ และนักวิชาการ ตัวอย่างของ ศูนย์วิเคราะห์สารสนเทศ เช่น สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
6. ศูนย์ประมวลและแจกจ่ายสารสนเทศ (information clearing house)
ศูนย์ประมวลและแจกจ่ายสารสนเทศทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในการเข้าถึงแหล่งสารสนเทศ แนะนำแหล่งสารสนเทศ (referral service) ที่เหมาะสม หรือทำหน้าที่เป็นหน่วยงานรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศแล้วแจกจ่ายไปยังผู้ที่ต้องการ โดยการจัดทำสหบัตรรายการค้น บรรณานุกรม ดัชนีและสาระสังเขป และรายชื่อเอกสารที่ศูนย์ทำหน้าที่ประสานการแจกจ่าย ได้แก่ ห้องสมุดยูเนสโก หอสมุดแห่งชาติประเทศอังกฤษ (British Library) หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress) และหอสมุดแห่งชาติของไทย เป็นต้น
สำหรับประเทศไทยมีศูนย์ประสานงานเครือข่ายระบบสารนิเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสังคมศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค มีสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเป็นหน่วยประสานงาน โดยยูเนสโก (UNESCO) เป็นผู้จัดตั้งข่ายงานทั้งสองในระดับภูมิภาคเรียกว่า ASTINFO และ APINESS
“ASTINFO” ย่อมาจาก Regional Network for the Exchange of Information and Experiences in Science and Technology in Asia and Pacific มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า “ข่ายงานภูมิภาคเพื่อการแลกเปลี่ยนสารนิเทศและประสบการณ์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาคพื้นเอเซียและแปซิฟิค” ประกอบด้วยสมาชิก 12 ประเทศ คือ ศรีลังกา อินเดีย ฟิลิปปินส์ อิหร่าน จีน เกาหลี เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ เนปาล และประเทศไทย จัดตั้งเครือข่ายงานขึ้นเมื่อปี 2527 โดยมีสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ 6 ศูนย์ คือ สถาบันวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักหอสมุดเกษตรศาสตร์ สำนักบรรณสารการพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยมหิดล กองหอสมุดแห่งชาติ ศูนย์บริการเอกสารการวิจัย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
“APINESS” ย่อมาจาก Asia-Pacific Information Network in Social Sciences มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า ข่ายงานสารนิเทศด้านสังคมศาสตร์ระดับภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิค มีสมาชิก 17 ประเทศ โดย 12 ประเทศจาก ASTINFO จัดตั้งข่ายงานขึ้นเมื่อปี 2531 โดย ประกอบด้วยศูนย์สมทบทั้ง 6 ของ ASTINFO และหน่วยงานอื่นอีก 4 แห่ง คือ ห้องสมุดและศูนย์สารนิเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย,สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และหอสมุดจอห์น เอฟ เคเนดี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ทั้งสองข่ายงานข้างต้น มีภารกิจในการให้บริการข้อสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสังคมศาสตร์ในข่ายงานฯ พิจารณาขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศเพื่อปรับปรุงโครงสร้างขององค์กรในข่ายงานฯ จัดดำเนินการฝึกอบรมและสัมมนาระบบสารนิเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสังคมศาสตร์ จัดดำเนินการในเรื่องอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย เช่นจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) องค์การอนามัยโลก (WHO) และยูเนสโก ที่เกี่ยวกับ ASTINFO และ APINESS
7. ศูนย์แนะแหล่งสารสนเทศ (referral centers)
ศูนย์แนะแหล่งสารสนเทศ ทำหน้าที่รวบรวมแหล่งข้อมูลและแหล่งสารสนเทศ โดยจัดทำเป็นคู่มือ หรือรายการบรรณานุกรมและดัชนี เพื่อให้คำแนะนำแหล่งข้อมูลสารสนเทศที่เหมาะสมตามที่ผู้ใช้ต้องการ ส่วนใหญ่จะแนะแหล่งสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา เช่น ศูนย์แนะแหล่งสารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ศูนย์แนะแหล่งสารสนเทศสิ่งแวดล้อมนานาชาติ เป็นต้น (ศรีสุภา นาคธน, 2548)
8. หน่วยงานจดหมายเหตุ (archive)
หน่วยงานจดหมายเหตุ ทำหน้าที่รวบรวมและอนุรักษ์เอกสารราชการ และเอกสารทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ คำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ บันทึก หนังสือโต้ตอบ รายงาน แผนที่ ภาพถ่าย แบบแปลน เพื่อเป็นหลักฐานการดำเนินงานของรัฐและหน่วยงานเอกชน ใช้เป็นแหล่งค้นคว้าอ้างอิงทั้งเพื่อการปฏิบัติงานและค้นคว้าทางวิชาการ ตัวอย่างเช่นหอจดหมายเหตุแห่งชาติ หอจดหมายเหตุส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น หอจดหมายเหตุของสถาบันทางศาสนา หอจดหมายเหตุของมหาวิทยาลัย และหอจดหมายเหตุของสถาบันธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นต้น
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ มีฐานะเป็นสำนักหนึ่งในกรมศิลปากรกระทรวงวัฒนธรรม จัดตั้งเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2495 มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเก็บและบำรุงรักษาเอกสารทางราชการที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ที่มีอายุเกิน 25 ปี และรูปถ่ายไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า ให้บริการค้นคว้าเอกสารจดหมายเหตุประเภทต่าง ๆ เช่น เอกสารโต้ตอบของส่วนราชการ เอกสารส่วนบุคคล เอกสารประวัติศาสตร์ร่วมสมัยทั้งที่เป็นเอกสารประเภทลายลักษณ์และประเภทไมโครฟิล์มรวม ทั้งบริการเอกสารประเภทโสตทัศนจดหมายเหตุ เช่น ภาพถ่าย แผนที่ แผนผัง แบบแปลน สไลด์ ซีดี แถบบันทึกเสียง เป็นต้น
ปัจจุบันหอจดหมายเหตุแห่งชาติตั้งอยู่ด้านหลังอาคารหอสมุดแห่งชาติ ที่ท่าวาสุกรี ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และมีหอจดหมายเหตุแห่งชาติสาขาในต่างจังหวัด ได้แก่ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตรัง ยะลา และสงขลา หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พะเยา และอุบลราชธานี หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดจันทบุรี หอจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดนครศรีธรรมราช หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หอเกียรติยศ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี คนที่ ๒๑ จังหวัดสุพรรณบุรี
9. สถาบันบริการสารสนเทศเชิงพาณิชย์ (commercial information service center)
สถาบันบริการสารสนเทศเชิงพาณิชย์ให้บริการสารสนเทศโดยคิดค่าบริการ
สถาบันบริการสารสนเทศเชิงพาณิชย์มีหลายรูปแบบได้แก่
ศูนย์บริการสารสนเทศทันสมัย (current awareness services
สำนักงานติดต่อและให้คำปรึกษาทางสารสนเทศ (extension services–liason and advisory)
ศูนย์บริการ สาระสังเขปและดรรชนี (abstract and index services)
10. เครือข่ายบริการสารสนเทศ (information services network)
เครือข่ายบริการสารสนเทศเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของกลุ่มสถาบันบริการสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านการบริการทางบรรณานุกรม ได้แก่ การทำบัตรรายการ การพัฒนาทรัพยากร การยืมระหว่างห้องสมุด และการบริการฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครือข่ายยูนิเน็ต (UniNet)
ศูนย์บริการสารสนเทศทันสมัย (current awareness services
สำนักงานติดต่อและให้คำปรึกษาทางสารสนเทศ (extension services–liason and advisory)
ศูนย์บริการ สาระสังเขปและดรรชนี (abstract and index services)
10. เครือข่ายบริการสารสนเทศ (information services network)
เครือข่ายบริการสารสนเทศเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของกลุ่มสถาบันบริการสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านการบริการทางบรรณานุกรม ได้แก่ การทำบัตรรายการ การพัฒนาทรัพยากร การยืมระหว่างห้องสมุด และการบริการฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครือข่ายยูนิเน็ต (UniNet)
งานบริการสารสนเทศ
สถาบันสารสนเทศเน้นให้บริการสารสนเทศแตกต่างกันไปตามหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง ซึ่งพอจะสรุปบริการที่จัดให้โดยทั่วไปได้ดังนี้
1. บริการการอ่าน เป็นบริการที่สถาบันบริการสารสนเทศจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศในระบบชั้นเปิดและจัดที่นั่งสำหรับอ่านค้นคว้าได้โดยอิสระตามความสนใจของแต่ละบุคคล พร้อมทั้งจัดทำเครื่องมือช่วยค้นซึ่งอาจจะเป็นบัตรรายการหรือรายการในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศได้โดยสะดวก
2. บริการบรรณานุกรมและสาระสังเขป เป็นบริการรวบรวมรายการทรัพยากรสารสนเทศที่มีบริการอยู่ในสถาบัน หรืออาจรวบรวมเฉพาะเรื่องที่มีผู้สนใจ หรือรวบรวมตามระยะเวลาที่จัดหาทรัพยากรสารสนเทศใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการศึกษาค้นคว้า เช่น การทำบัตรรายการ การทำดัชนีวารสาร บริการโอแพค (OPAC) ของห้องสมุด และ การจัดทำบรรณานุกรมแห่งชาติประจำปี ของหอสมุดแห่งชาติ เป็นต้น
3. บริการให้ยืมทรัพยากรสารสนเทศ เป็นบริการให้ยืมทรัพยากรสารสนเทศออกไปใช้ภายนอกสถาบัน โดยผู้ใช้บริการจะต้องสมัครเป็นสมาชิกและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสถาบันบริการสารสนเทศ
สถาบันสารสนเทศเน้นให้บริการสารสนเทศแตกต่างกันไปตามหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง ซึ่งพอจะสรุปบริการที่จัดให้โดยทั่วไปได้ดังนี้
1. บริการการอ่าน เป็นบริการที่สถาบันบริการสารสนเทศจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศในระบบชั้นเปิดและจัดที่นั่งสำหรับอ่านค้นคว้าได้โดยอิสระตามความสนใจของแต่ละบุคคล พร้อมทั้งจัดทำเครื่องมือช่วยค้นซึ่งอาจจะเป็นบัตรรายการหรือรายการในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศได้โดยสะดวก
2. บริการบรรณานุกรมและสาระสังเขป เป็นบริการรวบรวมรายการทรัพยากรสารสนเทศที่มีบริการอยู่ในสถาบัน หรืออาจรวบรวมเฉพาะเรื่องที่มีผู้สนใจ หรือรวบรวมตามระยะเวลาที่จัดหาทรัพยากรสารสนเทศใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการศึกษาค้นคว้า เช่น การทำบัตรรายการ การทำดัชนีวารสาร บริการโอแพค (OPAC) ของห้องสมุด และ การจัดทำบรรณานุกรมแห่งชาติประจำปี ของหอสมุดแห่งชาติ เป็นต้น
3. บริการให้ยืมทรัพยากรสารสนเทศ เป็นบริการให้ยืมทรัพยากรสารสนเทศออกไปใช้ภายนอกสถาบัน โดยผู้ใช้บริการจะต้องสมัครเป็นสมาชิกและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสถาบันบริการสารสนเทศ
4. บริการยืมระหว่างห้องสมุดหรือสถาบัน เป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกที่ต้องการยืมทรัพยากรสารสนเทศจากสถาบันอื่น
โดยสถาบันต้นสังกัดของสมาชิกช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อประสาน ซึ่งผู้ใช้บริการต้องเสียค่าใช้จ่ายบางส่วน
เช่น ค่าถ่ายเอกสาร ค่าขนส่ง เป็นต้น
5. บริการจองหนังสือหรือบริการหนังสือสำรอง เป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่มีผู้สนใจต้องการใช้จำนวนมาก สถาบันบริการสารสนเทศอาจให้บริการจองหนังสือล่วงหน้า หรืออาจจัดบริการหนังสือสำรองไว้ในสถาบันโดยไม่ให้ยืมออกนอกสถาบันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ได้ใช้บริการอย่างทั่วถึงทุกคน
6. บริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า เป็นบริการให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้ใช้บริการในการค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ ที่มีในสถาบัน และแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผู้ใช้ต้องการ
7. บริการแนะนำแหล่งสารสนเทศ เป็นบริการแนะนำแหล่งหรือสถาบันบริการสารสนเทศ วิธีการใช้ วิธีการสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้เข้าถึงแหล่งจัดเก็บไว้ ได้อย่างรวดเร็ว และใช้ประโยชน์ในแหล่งสารสนเทศนั้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
8. บริการเผยแพร่สารสนเทศและนิทรรศการ เป็นบริการเผยแพร่สารสนเทศในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เพื่อชักชวนให้เกิดความสนใจการอ่าน และการศึกษาค้นคว้าต่อเนื่อง เช่น การจัดนิทรรศการ การจัดประชุมอภิปรายทางวิชาการ การจัดทำจุลสาร วารสารวิชาการ เป็นต้น
9. บริการข่าวสารทันสมัย เป็นบริการรวบรวม คัดเลือกและเผยแพร่สารสนเทศใหม่ ๆ แก่สมาชิกหรือผู้ใช้บริการ เช่น การทำสำเนาบทความจากวารสาร การทำบรรณานุกรมและสาระสังเขปแล้วส่งให้ผู้ใช้บริการ เป็นต้น
10. บริการถ่ายสำเนาและพิมพ์ผลการค้นข้อมูล เป็นบริการถ่ายสำเนาเอกสารไปใช้ประโยชน์ เช่น บริการถ่ายเอกสาร บริการพิมพ์ผลการสืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลออนไลน์ อินเทอร์เน็ต หรือแฟ้มข้อมูล
11. บริการอินเทอร์เน็ต เป็นการให้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ค้นคว้าได้ใช้บริการต่าง ๆ เช่น การสืบค้นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ และการใช้บริการจดหมายอีเล็กทรอนิกส์ (e –mail) เป็นต้น
5. บริการจองหนังสือหรือบริการหนังสือสำรอง เป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่มีผู้สนใจต้องการใช้จำนวนมาก สถาบันบริการสารสนเทศอาจให้บริการจองหนังสือล่วงหน้า หรืออาจจัดบริการหนังสือสำรองไว้ในสถาบันโดยไม่ให้ยืมออกนอกสถาบันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ได้ใช้บริการอย่างทั่วถึงทุกคน
6. บริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า เป็นบริการให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้ใช้บริการในการค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ ที่มีในสถาบัน และแหล่งสารสนเทศอื่น ๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผู้ใช้ต้องการ
7. บริการแนะนำแหล่งสารสนเทศ เป็นบริการแนะนำแหล่งหรือสถาบันบริการสารสนเทศ วิธีการใช้ วิธีการสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้เข้าถึงแหล่งจัดเก็บไว้ ได้อย่างรวดเร็ว และใช้ประโยชน์ในแหล่งสารสนเทศนั้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
8. บริการเผยแพร่สารสนเทศและนิทรรศการ เป็นบริการเผยแพร่สารสนเทศในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เพื่อชักชวนให้เกิดความสนใจการอ่าน และการศึกษาค้นคว้าต่อเนื่อง เช่น การจัดนิทรรศการ การจัดประชุมอภิปรายทางวิชาการ การจัดทำจุลสาร วารสารวิชาการ เป็นต้น
9. บริการข่าวสารทันสมัย เป็นบริการรวบรวม คัดเลือกและเผยแพร่สารสนเทศใหม่ ๆ แก่สมาชิกหรือผู้ใช้บริการ เช่น การทำสำเนาบทความจากวารสาร การทำบรรณานุกรมและสาระสังเขปแล้วส่งให้ผู้ใช้บริการ เป็นต้น
10. บริการถ่ายสำเนาและพิมพ์ผลการค้นข้อมูล เป็นบริการถ่ายสำเนาเอกสารไปใช้ประโยชน์ เช่น บริการถ่ายเอกสาร บริการพิมพ์ผลการสืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลออนไลน์ อินเทอร์เน็ต หรือแฟ้มข้อมูล
11. บริการอินเทอร์เน็ต เป็นการให้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ค้นคว้าได้ใช้บริการต่าง ๆ เช่น การสืบค้นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ และการใช้บริการจดหมายอีเล็กทรอนิกส์ (e –mail) เป็นต้น
อ้างอิง
ธนู บุญญานุวัตร. (2557). แหล่งบริการสารสนเทศ. [ออนไลน์].
เข้าถึง : http://tanoo.wordpress.com. สืบค้น 10 กรกฏาคม 2557.
ธนู บุญญานุวัตร. (2557). แหล่งบริการสารสนเทศ. [ออนไลน์].
เข้าถึง : http://tanoo.wordpress.com. สืบค้น 10 กรกฏาคม 2557.